จะรู้ตนเองได้อย่างไรว่าเหมาะจะเรียนแพทย์หรือไม่

สำหรับน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมปลาย ต่างก็กำลังคิดว่าจะเรียนต่ออะไรกันดี เริ่มคุยกันตั้งแต่ตอน มัธยม 5 กันแล้ว แต่สำหรับ คนที่อยากจะเรียนหมอ หรืออยากจะเข้าคณะแพทย์ ควรจะต้องคุยกับตนเองตั้งแต่ตอน มัธยมต้นด้วยซ้ำไป เพราะตอนนี้การจะเข้าเรียนต่อเป็นหมอนั้นจะต้องเริ่มดูตั้งแต่เกรดเฉลี่ย มัธยมปีที่ 4 เป็นต้นไป
สำหรับคนที่ต้องการเรียนต่อแพทย์นั้น สิ่งที่ต้องรู้ตนเองว่าเหมาะกับการเรียนแพทย์หรือไม่ ก็ต้องประกอบไปด้วย
1.สนใจเรื่องวิทยาศาสตร์มากน้อยเพียงใด
สำหรับการเรียนหมอ จำเป็นต้องเข้าใจและเรียนรู้เรื่อวิทยาศาสตร์พอสมควร และเมื่อเข้าเรียนในระดับมัธยมปลายต้องตัดสินในเรียนในหมวดของ คณิต-วิทย์ เพราะการเข้าเรียนหมอจะมีวิชาที่สำคัญในการประเมินการเรียนด้วยเช่นกัน อย่างวิชา ชีวะ เคมี เป็นต้น
2.ภาษาอังกฤษ
หลายคนคิดว่าภาษาอังกฤษไว้มาเรียนตอนหลังก็ได้ เมื่อจะเริ่มทำงานค่อยหาที่เรียน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การจะเรียนต่อแพทย์ จะต้องเน้นที่ภาษาเป็นสำคัญด้วยเช่นกัน เครื่องมือแพทย์ 100% เป็นภาษาอังกฤษ และศัพย์ทุกอย่างจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ ตรงนี้ต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ เมื่อเราได้เรียนหมอแล้วโอกาสที่จะได้เรียนกับหมอจากต่างประเทศก็มีเช่นกัน
3.การสนับสนุนจากทางบ้าน
เมื่อเราตั้งใจแนวแน่แล้วว่า จะต้องเรียนหมอ และด้วยคะแนนและความรู้ของเราทั้งหมด สามารถเข้าเรียนได้อย่างไม่ยากนัก ก็ต้องมาปรึกษากับ คุณแม่ คุณพ่อ หรือ ผู้ปกครองในเรื่องการเข้าเรียน ว่าจะเรียนในแบบไหน และแนวทางที่จะเรียนเป็นอย่างไร อาจจะมองไปถึงการเรียนต่อหลักจากจบแพทย์ใน 6 ปีแล้วก็ได้เช่นกัน เรียนวิชาเอกเป็นหมอในสายที่ถนัด ทำเงินได้มาก และอาจจะกลายเป็นอาจารย์ได้อีกด้วย
4.เป้าหมาย
การเรียนแพทย์ คุณอาจจะไม่ได้เป็นหมอตามโรงพยาบาลแต่เพียงอย่างเดียว อาจจะเป็นในเรื่องของสาขาวิชาเอกที่ต้องการจะเรียนด้วยเช่นกัน อย่างเช่นเอกในสาขาศัลยกรรม ซึ่งสามารถออกมาต่อยอดในการเปิดคลีนิคความงามได้อีกด้วย
5.ยอมรับในเรื่องการเรียนหนัก
การจะเรียนหมอนั้นจะต้องเรียนหนักกว่าสาขาวิชาอื่นถึง 2 เท่า ทั้งปฏิบัติ และทั้งทฤษฎี ที่ต้องเรียนไปพร้อมกัน จำเป็นต้องมีความพร้อมในเรื่องร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเราได้ตัดสินใจเรียนหมอแล้ว โอกาสในการทำงานนั้นก็ไม่ต้องไปแสวงหาแต่อย่างใด เพราะสายงานนี้เป็นที่ต้องการของประเทศอยู่ตลอดเวลา และเมื่อได้เรียนเจาะลึกไปจนถึงระดับที่สูงที่สุดแล้ว ก็จะมีเรื่องรายได้อย่างต่อเนื่องเข้ามา อาจจะเหนื่อยในช่วงแรก แต่เมื่อถึงจุดที่เราตั้งเป้าหมายไว้ เรื่องทางการเงินก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป